เยี่ยมชมตกแต่งภายในออฟฟิศสุดชิคของ Google

ออฟฟิศของบริษัทข้ามชาติชื่อดังอย่าง Google มีอยู่ทั่วเกือบทุกมุมโลก และสิ่งที่ได้รับความสนใจไม่แพ้เรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆก็คือการตกแต่งภายในออฟฟิศ ที่มีความสวยงาม ความทันสมัย หรือ ความผสมผสานทางศิลปะ โดยออฟฟิศแห่งแรกที่เราจะพาไปเยี่ยมชมนั้นเป็นออฟฟิศที่ลอนดอน โดยกูเกิ้ลวางคอนเซปการตกแต่งภายในไว้อย่างน่าสนใจนั้นคือ การมีออฟฟิศที่ทำให้เหล่าวิศกรมาทำงานด้วยความคิดที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นจึงตกลงที่จะทำให้ออฟฟิศมีบรรยากาศคล้ายกับ Big Brother House องค์กรลับที่ตกลงทำงานบางอย่างร่วมกัน

สำนักงานใหญ่ที่ลอนดอนนี้ตั้งอยู่ในย่าน วิคตอเรีย กรุงลอนดอน ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 3 ชั้น มีพนักงาน 350 คน ที่จะเริ่มใช้ชั้นที่ได้การปรับปรุงใหม่ ที่เรียกว่า ชั้น 4 หรือ L4 ซึ่งจะเป็นสถานที่หนึ่งที่ทันสมัยที่สุดในโลก โดยห้องมีทติ้ง ซึ่งบริษัททั่วไปก็จะเป็นห้องประชุม มีโต๊ะ 1 ตัว แวดล้อมไปด้วยเก้าอี้สำหรับพนักงาน หัวโต๊ะก็จะเป็นที่นั่งของประธานบริษัทหรือผู้จัดการแผนก แต่สำหรับกูเกิ้ลแล้ว ห้องมีทติ้ง เป็นเสมืองห้องรับแขก เพราะจัดวางไปด้วยเก้าอี้บุนวม หลากหลายดีไซน์และไม่มีโต๊ะยาววางไว้ให้รู้สึกเคร่งเครียด หรือ รู้สึกเบื่อหน่ายเมื่อเข้าประชุม นับว่าเป็นการตกแต่งภายในที่แปลกตาสำหรับออฟฟิศระดับโลกอย่างบริษัทกูเกิ้ล

เมื่อเข้าไปชมห้องรีแล็กซ์หรือห้องพักผ่อน ก็จะพบกับโซฟายาวๆรอบห้อง คล้ายๆกับห้องคาราโอเกะ เต็มไปด้วยหมอนใบเล็กๆ บางห้องก็จะมีโต๊ะบิลเลียด หรือเกมส์คอนโซลให้พนักงานได้เล่นผ่อนคลาย ที่นี้พนักงานสามารถทำงานได้ทุกที่ จะสังเกตเห็นว่า ภายในออฟฟิศของกูเกิ้ลจะเต็มไปด้วยโซฟา และ เก้าอี้ ที่ฝาผนังจะมีกระดานไวท์บอร์ดแผ่นใหญ่ๆ ใครที่สร้างสรรค์งานได้ ก็สามารถโน๊ตไว้ได้เลยทันทีก่อนที่จะลืมมันไป

ทีมประชาสัมพันธ์กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า สำนักงานที่อิสระและน่าสนุกนั้นไม่ได้สร้างผลร้ายแต่อย่างใด ประสบการณ์ของเราก็คือ สภาพแวดล้อมที่สะดวกสบาย, เปิดกว้างและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ เป็นการเปิดโอกาสให้มีการสื่อสารมากขึ้นและการสื่อสารก็จะนำไปสู่ไอเดียที่สร้างสรรค์ ในหลายผลิตภัณฑ์ล้วนมาจากพนักงานหลายๆฝ่าย ซึ่งต่างก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย และสำนักงานในลอนดอนก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากในการดำเนินงานทั่วโลกกับทีมที่มีความรับผิดชอบอย่างแอฟปริเคชั่นสุดนิยมอย่างแอนดรอยและ iPhone apps การค้นหาด้วยเสียง, การค้นหาในท้องถิ่นส่วนบุคคลและองค์ประกอบเว็บเบราว์เซอร์ของ แอนดรอยก็ถูกคิดค้นและสร้างขึ้นในลอนดอนทั้งหมด

ภายใต้ชั้น 4 ที่ทันสมัยนั้น จะถูกตกแต่งภายในด้วยความรู้สึกเหมือนอยู่ในยานอวกาศ ไม่ใช่ทั้งหมดเป็นโลหะ แต่ว่าเป็นห้องที่ใช้โทนขาว กว้างขวาง ห้องวีดีโอคอนเฟอร์แรนซ์ที่ทันสมัย สิ่งเหล่านี้ทำให้พนักงานรู้สึกผ่อนคลาย และมีโอกาสที่จะสร้างสรรค์ผลงานระดับโลกให้ออกมาดูดี และ มีประสิทธิภาพ

ในส่วนของทวีปเอเชีย Google ก็มีสำนักงานด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น หรือ ประเทศไทย ในส่วนนี้เราขอพูดถึงสำนักงานที่ญี่ปุ่น โดยจะเป็นส่วนการดำเนินงานของ YouTube โดยเน้นการออกแบบตกแต่งภายในอย่างเรียบง่าย แต่แฝงความขี้เล่นด้วยสีเขียวที่เลียนแบบพื้นหญ้าและตกแต่งผนังด้วยโลโก้ของ Google ส่วนใหญ่เป็นรูปของแอนดรอย

สิ่งที่คล้ายกันสำหรับสำนักงานกูเกิ้ลนั้นก็คือ ในสำนักงานจะเต็มไปด้วยคาเฟ่กาแฟและห้องอาหาร โดยอาหารที่จะนำเสนอให้พนักงาน จะมีความหลากหลายสามารถตอบสนองความต้องการให้กับพนักงานส่วนใหญ่ได้ สำหรับการตกแต่งภายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเข้าไปแล้วรู้สึกว่า เราอยู่ในร้านกาแฟหรูๆ หรือ โรงภาพยนตร์ หรือแม้กระทั่ง ห้องอาหารสุดทันสมัย ซึ่งเป็นสำนักงานที่มีการออกแบบเพื่อความเป็นอิสระทางด้านความคิดได้เป็นอย่างดี 

Hotel Management School กับความเติบโตในธุรกิจการท่องเที่ยว

ความสำคัญของ Hotel Management School ที่มีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรม ปัจจุบันนี้ทุกคนทั่วไปมักจะให้ความสำคัญกับความพักผ่อนและบันเทิง เนื่องจากว่าความคร่ำเคร่งหรือแข่งขันกันสูงในด้านการทำงานและการประกอบอาชีพ เมื่อถึงวันหยุดผู้คนจากทุกแขนงอาชีพจึงมุ่งเน้นไปที่การท่องเที่ยวพักผ่อน ดังนั้นการท่องเที่ยวและการโรงแรมจึงเป็นธุรกิจที่มีความเติบโตอยู่ตลอดทุกปี มีแนวโน้มถึงความเป็นไปได้ในอนาคตที่สูง จึงส่งผลให้ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้มีความเติบโตไปด้วยเช่น ด้านการศึกษาอย่าง Hotel Management School ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สอนเกี่ยวกับการบริหารจัดการในด้านที่พักการโรงแรม การสอนหรือหลักสูตรก็เป็นการบรรจุวิชาที่สอดคล้องกับความต้องการแรงงานของภาคธุรกิจ ผู้ที่สนใจเรียนในหลักสูตรเฉพาะเหล่านี้ ทางสถาบันมักจะให้การรับรองโอกาสการได้งานทำ ไม่ว่าจะเป็นภายในประเทศหรือระหว่างประเทศ มีการฝึกงานในสถานที่มีระดับมีชื่อเสียงเพื่อเพิ่มประสบการณ์เรียนรู้ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น

 Hotel Management School จึงเป็นเสมือนใบเบิกทางสู่การประกอบอาชีพในด้านการบริการอย่างเต็มรูปแบบ ในหลักสูตรก็จะประกอบได้ด้วย การเรียนรู้ด้านการต้อนรับลูกค้า การทำความสะอาด การบัญชี และการเงิน การตลาด และการบริหารด้านต่างๆ เมื่อจบแล้วก็สามารถที่จะนำประสบการณ์จากการฝึกงานไปประกอบอาชีพได้หลายแผนก  และไปได้หลายสายอาชีพไม่จำเป็นต้องเป็นด้านการโรงแรมอย่างเดียว

การเลือก Hotel Management School ที่ดีก็มีความจำเป็นเช่นกัน หากจบการศึกษาจากสถาบันระดับโลกก็สามารถที่เพิ่มโอกาสในการพบเจอผู้คนที่กว้างขวางขึ้น มากกว่าการเรียนภายในประเทศ และโอกาสที่จะได้ทำงานกับโรงแรมระดับเฟิร์สคลาสนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเช่นกัน สถาบัน Hotel Management School ที่คนส่วนใหญ่ทั่วโลกนิยมไปเรียนนั้นมักจะอยู่ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของหลักสูตรด้านโรงแรมในปัจจุบันนี้  

แล้วเราจะเลือกเรียนภายในประเทศหรือต่างประเทศ? การเลือกเรียนสถาบันใดๆนั้นในขั้นตอนแรกควรจะเลือกที่ความมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของบริษัทหรือโรงแรมต่างๆ เนื่องจากสถาบันที่มีคุณภาพมีการยอมรับมาก่อนแล้วนักศึกษาก็จะได้รับยอมรับเช่นเดียวกัน หากเลือกสถาบันที่เปิดใหม่ ทั้งสถาบันไม่ว่าจะเป็นบุคคลากรหรือนักศึกษาจะต้องหมั่นสร้างชื่อเสียง ความมีคุณภาพจนเป็นที่ยอมรับเสียก่อน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลานาน อาจจะเป็นสิบปี จากศิษย์เก่ารุ่นสู่รุ่น

การเลือกสถาบัน Hotel Management School ที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรแล้ว ยังเลือกหลักสูตรที่สถาบันนั้นเปิดสอนว่าประกอบด้วยรายวิชาใดบ้าง ตรงกับความต้องการของตลาดหรือไม่ มีการฝึกงานที่ใดบ้าง เป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงหรือว่าเป็นโรงแรมท้องถิ่น นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงงบประมาณที่จะเข้าเรียน หากนักศึกษาท่านใดที่ไม่มีงบเพียงพอที่จะเรียนต่างประเทศได้ ก็เริ่มต้นเรียนภายในประเทศหางานทำ เก็บเกี่ยวประสบการณ์และเงินทุน ไว้เรียนเพิ่มเติมจะเรียนระดับปริญญาโท หรือหลักสูตรสั้นๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์และหาโอกาสที่ดีกว่าให้กับตนเอง

แต่สำหรับผู้ที่มีเงินทุนอยู่แล้ว การเรียน Hotel Management School ในต่างประเทศจะเป็นการได้เปรียบกว่า เช่นด้านภาษา การได้พบผู้คนจากหลายๆชาติ การได้แลกเปลี่ยนมุมมองและความคิด ประสบการณ์การทำงานที่เป็นสากลเป็นระบบมากกว่า สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้นักศึกษาได้มีโอกาสตั้งแต่เริ่มแรก และการฝึกงานที่มักจะฝึกกับโรงแรมระดับห้าดาวหรือรีสอร์ทที่มีชื่อเสียง ก็เป็นเหมือนการเพิ่มประสบการณ์มากขึ้น เมื่อใกล้จบการศึกษา นักศึกษาคนใดที่ทำผลงานระหว่างการฝึกงานได้ดี และฝ่ายทรัพยากรบุคคลของโรงแรมให้ความสนใจ บริษัทเหล่านี้ก็จะขอจองตัวหรือขอจ้างงานต่อเมื่อเรียนจบ

การเรียน Hotel Management School นั้นไม่ได้เจาะจงว่าคุณจะต้องทำงานที่ใดที่หนึ่ง เพราะว่าธุรกิจนี้มีการเติบโตไปทั่วโลกหากคุณมีประสบการณ์ มีความรู้ มีความชอบที่จะเดินทางพบปะผู้คนแล้ว คุณสามารถทำงานที่ใดก็ได้ในโลกนี้ ทักษะทางด้านภาษาที่ได้รับจากการศึกษาจะเป็นสื่อกลางการเดินทางหาโอกาสและความก้าวหน้าได้เป็นอย่างดี

สิ่งสำคัญคือหากคุณต้องการจะทำงานด้านการโรงแรมและการต้อนรับ ทักษะที่จำเป็นนอกจากภาษาแล้ว การมีวิสัยทัศน์มองโลกในแง่ดี ชอบเข้าสังคม และที่สำคัญชอบการบริการ ทักษะเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่คุณจะต้องทดสอบหรือค้นหาตนเองก่อนว่าสามารถที่จะทำได้อย่างเป็นดีหรือยินดีที่จะเรียนรู้ได้ เพราะไม่เช่นนั้นการเรียนที่ขาดความสนใจอย่างแท้จริงถึงแม้ว่าคุณจะมีเงินเข้าเรียน Hotel Management School ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก แต่การทำสิ่งที่คุณไม่ชอบหรือไม่ต้องการนั้น ก็จะส่งผลให้คุณล้มเหลวหรือล้มเลิกกลางคันก็ได้

Swiss Hotel Management School กับการพัฒนาเพื่อให้ทันกับการบริการที่เพิ่มขึ้น

จากองค์กรการท่องเที่ยวโลกได้กล่าว่า ทุกๆนาทีจะมีโรงเรียนการโรงแรมถูกก่อตั้งขึ้น เพื่อการจัดการบุคลากรให้มีคุณภาพและเพิ่มประสบการณ์ในระดับนานาชาติอย่างแท้จริง โอกาสในการประสบผลสำเร็จเป็นการคาดการตามความเติบโตของวงการการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สำหรับผู้บริหารใน Swiss Hotel Management School นับว่าเป็นการท้าทายมากที่จะพาสถาบันไปสู่การพัฒนาและปรับปรุงให้เท่าทันกับการแข่งขันที่สูงขึ้นและทันกับการเติบโตของธุรกิจที่จะต้องสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพสู่แวดวงการโรงแรม

ข้อมูลข้างต้นเป็นการกล่าวเกินความหรือไม่ หากวัดจากสถิติในปี 2010 ธุรกิจการโรงแรมและท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีการจ้างงานมากกว่า 328 ล้านคน และความต้องการไม่เคยมีวันลดลง! นายจ้างยังคงต้องการพนักงานที่มีความสามารถสูง, การศึกษาดี, มีไหวพริปฏิภาน และมีความกระตือรือร้น ซึ่งสาเหตุนี้จึงทำให้เกิดโรงเรียนฝึกอบรมทางด้านโรงแรมมากขึ้น และจะสามารถตอบสนองความต้องการแรงงานที่กล่าวได้อย่างเพียงพอหรือไม่

Swiss Hotel Management School ได้รับเครดิตที่ดีเป็นเสมือนต้นตำรับของการฝึกอบรมด้านการโรงแรมและการต้อนรับ จากศตวรรษที่ 19 ที่ Swiss Hotel Management School ได้มีการจัดตั้งขึ้น มีการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเฉพาะ มุ่งเน้นไปที่การจัดเตรียมนักเรียนให้มีความพร้อมความสามารถที่จะไปประกอบวิชาชีพด้านการโรงแรมในตลาดแรงงานได้อย่างมีคุณภาพและได้รับการยอมรับจากผู้ว่าจ้าง และในปัจจุบันนี้ชื่อเสียงของสถาบันสวิสก็ขจรกระจายไปไกลทั่วโลก

ในปี 2004 มีนักเรียนได้เข้าการฝึกอบรมในสมาคม ASEH ประมาณ 4,498 คน และได้รับการรับรองจาก Swiss Hotel Management School ในขณะที่สถาบันการอบรมอื่นๆ ก็มีความแตกต่างทั้งในรูปแบบ เนื้อหา และเป้าหมาย พวกเขามีความเชี่ยวชาญที่จะฝึกอบรม ผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งไม่เหมือนกับมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัย ที่มีการเพิ่มเติมหลักสูตรเข้าไปอาจจะมีประสิทธิภาพที่ไม่เฉพาะพอกับมาตรฐานจากสถาบันการฝึกอบรมการโรงแรม

นักเรียนส่วนใหญ่ที่ได้รับการคัดเลือก จะมาจากทั่วทุกมุมโลก พวกเขาเหล่านี้จะใช้เวลาศึกษาฝึกอบรมเรียนรู้ใน Swiss Hotel Management School และหลักสูตรส่วนใหญ่จะเรียนกันเป็นภาษาอังกฤษ และฝึกงานตามโรงแรมต่างๆโดยระยะเวลาการฝึกงานนั้นจะยาวนานถึง 5-6  เดือนต่อภาคการศึกษา ส่วนใหญ่แล้วโรงแรมที่เข้าร่วมการฝึกงานนั้นจะมีมาตรฐานในระดับ4-5 ดาว ประสบการณ์ที่ได้รับจากการเรียนรู้ และการได้ฝึกใช้ทักษะจากสถานการณ์จริงจะช่วยให้พวกเขากลายเป็นหัวหน้าหรือผู้จัดการที่ดีได้ในวันข้างหน้า

ผลการประเมินประสิทธิภาพของ Swiss Hotel Management School เมื่อเปรียบเทียบกับความต้องการและมาตรฐานของนายจ้างแล้ว มีความคล้ายคลึงกันกับการเรียนการสอนในหลักสูตรต่างๆของสถาบันฝึกอบรม ซึ่งหลักสูตรจะมีความสมดุลกันทั้งทางด้านทฤษฏีและภาคปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นในร้านอาหาร,บาร์, หรือการฝึกในสถานการณ์จำลองสิ่งเหล่านี้จะสร้างโอกาสสำหรับการนำมาปฏิบัติงานจริง นอกจากนี้ การที่ได้อยู่ใจกลางของทวีปยุโรปก็จะสร้างประสบการณ์การเดินทางให้แก่นักเรียน การได้ไปสัมผัสกับสถานที่สำคัญๆของโลกหลายๆอย่าง รูปแบบของร้านอาหารและความแตกต่างทางด้านอาหารก็จะช่วยให้นักเรียนได้มีโอกาสได้นำไปใช้และได้เรียนรู้-ฝึกฝนภาษา

ความแตกต่างของแต่ละประเทศก็มีความคาดหวังในคุณสมบัติของนักเรียนที่แตกต่างกันด้วย อย่างเช่น ในจีน จะมีการวางระบบด้านการจองและการบริการลูกค้า ความคาดหวังของพวกเขาอาจจะไม่ใช่นักเรียนที่ต้องจบจากยุโรปหรือสหรัฐ พวกเขาจะชอบนักเรียนที่พูดภาษาอังกฤษได้ มีความสามารถในการติดต่อสื่อสารกับแขกได้ดี สิ่งที่ภาคอุตสาหกรรมด้านโรงแรมจะต้องพัฒนาต่อไปในอนาคตนั้น จะเป็นด้านการปรับปรุงพัฒนาความภักดีต่อแบรนด์เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะมองหาผู้ที่มีคุณสมบัติ จบการฝึกอบรมในคอร์สระยะสั้น (สำหรับผู้มีประสบการณ์มาก่อน) ระดับปริญญาโท และ ประกาศนียบัตรก็เป็นที่น่าสนใจเช่นกัน โดยจะต้องผ่านการเรียนวิชาดังต่อไปนี้ อาหารและเครื่องดื่ม, การจัดเลี้ยง, ไวน์และแอลกอฮอล์, การควบคุมต้นทุน, การบัญชี, การจัดการ, การดูแลความสะอาด, สำนักงานส่วนหน้าและด้านทรัพยากรมนุษย์ นอกจากจะต้องมีทักษะทางด้านภาษา, การติดต่อสื่อสาร ความสามารถในขายและการตลาด

การจัดจ้างพนักงานนั้นก็จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการทั่วไป ส่วนใหญ่จะคำนึงถึงด้านประสบการณ์, บุคลิกภาพ,ทักษะหรือความรู้ทั่วไป ในปัจจุบันนี้การเลือกผู้บริหารส่วนใหญ่จะมักมีการผสมผสานกันระหว่างประสบการณ์ในการทำงาน-ความชำนาญ-การเรียนรู้งานและทักษะอื่นๆ แต่ในอนาคตการคัดเลือกผู้บริหารนั้นจะมีการแข่งขันที่สูงขึ้นมาก และมีความซับซ้อนมากขึ้น มีความเต็มใจที่จะเรียนรู้ในการปฏิบัติงานและต้องเป็นคนที่มีความคิดทางธุรกิจ ซึ่งเป็นโจทย์ที่สถาบันการฝึกอบรมและ Swiss Hotel Management School จะต้องไปคิดเป็นโจทย์เพื่อสร้างความโดดเด่นและสร้างบุคลากรที่มีความสามารถตรงกับความต้องการของนายจ้าง

ระบบที่ต้องใช้ฐานข้อมูล

       อุปกรณ์อิเล็กทรนิกส์ในปัจจุบันได้เข้ามามีบทบาทที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์เรามาก สาเหตุเป็นเพราะว่า

1. อำนวยความสะดวก สบาย
2. เพิ่มความรวดเร็วในการใช้งาน
3. เตือนความจำ

       ซึ่งทุกข้อจะมีประสิทธิภาพต่อการใช้งานขึ้นอยู่กับฐานข้อมูลที่ใช้ในการเก็บข้อมูล อาทิเช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ โทรศัพท์มือถือ และเว็บไซต์

       คุณสมบัติฐานข้อมูลที่นำมาใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์(อาจติดตั้งอยู่ภายในหรือส่งข้อมูลไปจัดเก็บไว้ในฐานของมูลอีกครั้ง)ขึ้นอยู่กับปริมาณพื้นที่ที่ใช้จัดเก็บเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้งานแค่ไหน เช่น

•     เครื่องสแกนลายนิ้วมือ มีฐานข้อมูลเพียงพอต่อการรองรับจำนวนลายนิ้วมือของพนักงานทั้งหมดหรือจำนวนสมาชิกที่อาศัยอยู่ภายในอาคารหรือไม่ (ต้องพิจารณาถึงอนาคตด้วย)
•     เว็บไซต์ นอกจากต้องออกแบบหน้าเว็บให้สวยงาม มีโดเมนเนมที่จดไว้เรียบร้อยแล้วเท่านั้น แต่หากยังขาดโฮสที่มีคุณภาพก็ไม่ต่างอะไรกับเครื่องยนต์ที่ไม่มีน้ำมัน ซึ่งไม่สามารถเปิดใช้งานระบบได้เลย อีกทั้งต้องมีพื้นที่เพียงพอต่อจำนวนไฟล์งานที่จะนำเสนอให้กับกลุ่มลูกค้าได้เข้ามาศึกษา และใช้งานระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นความปลอดภัย เช่น
•     ระบบสำรองข้อมูลที่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อป้องกันข้อมูลเหล่านั้นสูญหายที่่ก่อให้เกิดความเสียหายตามมาในภายหลังได้
•     โปรแกรมสแกนไวรัส ที่มาในรูปแบบต่างตามระบบไร้สาย

ทำไมคนไทยต้องเรียนภาษาเกาหลี

         ลูกๆ หลายบ้านต่างนิยมไปเรียนภาษาเกาหลีกันช่วงซัมเมอร์ ทำให้ตอนนี้เด็กไทยนิยมเรียนภาษาเกาหลีกันมากขึ้นจากแต่ก่อน ซึ่งด้วยหลายเหตุผลที่ทำให้เกินความนิยมมากขึ้นจนถึงปัจจุบัน และไม่แค่เด็กๆ เท่านั้นที่ให้ความสนใจในการเรียนภาษา ผู้ใหญ่ก็หันมาเรียนกันมากขึ้นเพื่อใช้สื่อสารในการทำงานกันชาวเกาหลีนั้นเอง แรงบันดาลใจที่ทำให้ภาษาเกาหลีได้รับความนิยมนั้นคือ

1. เรียนภาษาไว้ เพื่อสื่อสารกันคนเกาหลีได้เมื่อไปเที่ยวเกาหลี ภาษาในการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญมากเวลาอยู่ต่างแดน 
2. เรียนเพื่อสื่อสารกับหัวหน้างานที่เป็นชาวเกาหลี เพราะในปัจจุบันมีการมีชาวต่างชาติมาลงทุนทำธุรกิจที่ประเทศไทยเป็นจำนวนมาก 
3. เรียนเพราะอยากร้องเพราะเกาหลีและแปลความหมายของเพลงได้ เป็นเหตุผลหนึ่งที่วัยรุ่นวัยเรียนแฟนคลับดารา นักร้องเกาหลี ตัดสินในเรียนภาษาเกาหลีอย่างจริงจัง 
4. เรียนเพื่อต้องการไปเรียนต่อที่ประเทศเกาหลี ดังนี้การเรียนรู้ภาษาเบื้องต้นและวัฒนธรรมเกาหลี ก่อนเดินทางไปก็เป็นสิ่งที่จะช่วยให้สามารถอยู่ที่เกาหลีได้สบายมากขึ้น เพราะลดความกดดันด้านการสื่อสารต่างภาษา 
5. เรียนเพื่อเป็นความรู้และสร้างทักษะด้านภาษาให้กับตัวเอง เพื่อใช้งานภาษาได้ในอนาตค 
6. เรียนตามเพื่อน หรือเรียนเพราะความต้องการของพ่อแม่ แต่หากได้เรียนได้รู้จักภาษาเกาหลีแล้ว รับรองว่าจะต้องชอบและสนุกไปกับการเรียนภาษาเกาหลีแน่นอน

การเลือกเล่นเกมส์

เกมส์ในปัจจุบันนี้ถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่ส่งผลประทบต่อจิตใจหรืออารมณ์ของผู้คนในสังคมเป็นอย่างมาก และจะทำอย่างไรเพื่อให้การเล่นเกมส์ไม่เป็นการบั่นทอนจิตใจของผู้เล่นได้ ซึ่งเทคนิคการเลือกเล่นเกมส์ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญเอ็นอย่างมาก เพราะเกมส์มีทั้งโหมดรุนแรง เพิ่มทักษะทางด้านการวิเคราะห์ ความสนุกสนาน ท้าทาย แข่งขัน และเพื่อความสวยงาม เรามาดูแต่ละหมวดเกมส์กันว่ามีอะไรกันบ้าง

• เกมส์รุนแรงและเกมส์แข่งขัน ได้แก่ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ยิงปืน เกมส์ขับรถแข่งกลางเมืองเพื่อท้าทายตำรวจ เป็นต้น ซึ่งเกมส์จำพวกนี้อาจส่งผลทางด้านแง่ลบให้กับเด็กหรือผู้เล่นได้ หากไม่รู้จักการแยกแยะระหว่างความเป็นจริงกับเนื้อหาเกมส์ไม่ออก
• เกมส์เพิ่มทักษะ ได้เกมส์ เกมส์แต่งหน้า เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ทำอาหาร เกมส์จับคู่ เกส์คิดเลขเร็ว เกมส์วางแผน เกมส์ปลูผักซึ่งมีให้เลือกเล่นได้ทุกวัย 
• เกมส์สร้างความสนุกสนานเพลิดเพลิน เกมส์ประเภทนี้จะมีอยู่ทุกเกมส์
• เกมส์ท้าทาย ได้เแก่เกมส์รถแข่งวิบาก เกมส์ที่มีภาระกิจต่างๆ 
• เกมส์สวยงาม ได้แก่ เกมส์แต่งหน้า เกมส์ตัดผม เกมส์แต่งตัว เกมส์ออกแบบเครื่องแต่กาย

โดยส่วนเกมส์ในปัจจุบันนี้ ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นได้ทั้งระบบออนไลน์และระบบออฟไลน์ ไม่จำเป็นต้องติดตั้งผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ก็เล่นได้ โดยการเล่นผ่านทางหน้าเว็บไซต์แบบไม่ต้องเสียงค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น อีกทั้งยังเล่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถผ่อนคลายความเครียดด้วยวิธีการเล่นเกมส์ได้แบบไม่จำกัดเวลา

ประเภทของเกมส์รถแข่ง

วิธีการช่วยแบ่งเบาความตรึงเครียดหรือสถานการณ์ที่ต้องการผ่อนคลาย ที่ผู้คนไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยไหนเลือกคือการเล่นเกมส์ และเกมส์ที่เป็นที่ฮอตฮิตมากที่สุดคือ เกมส์รถแข่ง ที่มีให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้ทั้งระบบออฟไลน์ด้วยการติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนทั้งหลาย และระบบออนไลน์ ซึ่งอาจเป็นเกมส์ที่ต้องติดตั้งก่อนจึงสามารถเล่นได้ หรือเพียงแค่คลิกเข้าไปที่เว็บไซต์เกมส์รถแข่งโดยตรงก็สามารถเล่นได้ เพียงแค่เชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ท ก็สนุกกันได้แบบไร้ขีดจำกัด ตลอดเวลา

ประเภทเกมส์รถแข่ง

•  เกมส์รถแข่งกลางทะเลทราย วัดระดับความความเร็ว แรง ทนทาน เพื่อทดสอบความท้าทายสำหรับการบังคับรถ
• ขับรถวิบาก เปิดสนามพร้อมลุยไปด้วยกัน กับสไตล์รถแข่งที่คุรสามารถออกแบบและอัพเกรทความแรงของเครื่องยนต์ได้เอง
• เกมส์ขับรถมอเตอร์ไซต์ ที่มีทั้งวัดความเร็ว และวิบาก โดยในแต่ละสนามจะถูกจำลองสถานการณ์ได้เสมือนจริงมากที่สุด
• เกมส์ขับรถบิ๊กฟุต กับสนามที่มีความสวยงาม แลควบคุมได้ง่าย
• เกมส์รถแข่งมอเตอร์ไซต์ บนสิ่งกีดขวางต่างๆ
• เกมส์ขับรถบัสเพื่อรับส่งผู้โดยสาร
• เกมส์ขับรถบรรทุกไปตามเส้นทางเพื่อส่งของให้ทันเวลา
• เกมส์รถแข่งผาดโผน แสดงท่าทางต่างๆกลางอากาศ